3 การตั้งค่า Mac ที่คุณต้องเปลี่ยนทันที: ป้องกันตัวคุณจากการโจมตีไซเบอร์ที่คาดไม่ถึง!

3 การตั้งค่า Mac ที่คุณต้องเปลี่ยนทันที: ป้องกันตัวคุณจากการโจมตีไซเบอร์ที่คาดไม่ถึง!

ความเข้าใจผิดที่อันตราย: Mac ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป

ผู้ใช้งาน Apple Mac จำนวนมากมักมีความเชื่อผิด ๆ ว่าระบบปฏิบัติการ macOS นั้น ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง ข้อมูลจากงานวิจัยหลายแห่งชี้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักว่าอุปกรณ์ Mac เองก็ตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการป้องกันที่รัดกุม ดังนั้น การปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเพียงเล็กน้อยก็สามารถยกระดับการป้องกันข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำคัญของคุณได้อย่างมหาศาล

สามขั้นตอนสำคัญในการเสริมเกราะป้องกัน Mac ของคุณให้แข็งแกร่ง

เพื่อปกป้อง Mac ทั้งส่วนตัวและสำหรับการทำงานจากมัลแวร์และการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต นี่คือ 3 การตั้งค่าที่คุณควรตรวจสอบและเปิดใช้งานทันที:

1. เปิดใช้งานโหมดซ่อนตัว (Enable Stealth Mode) ใน Firewall

โหมดซ่อนตัวเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้แฮกเกอร์หรือมัลแวร์หาอุปกรณ์ของคุณได้ยากขึ้นบนเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สาธารณะ

  • การทำงาน: เมื่อเปิดใช้งาน Mac จะไม่ตอบสนองต่อคำขอ “Ping” หรือความพยายามในการเชื่อมต่อจากเครือข่าย TCP หรือ UDP ที่ปิดอยู่
  • วิธีตั้งค่า: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิด Firewall แล้ว จากนั้นไปที่เมนู Apple > การตั้งค่าระบบ > เครือข่าย > Firewall > ตัวเลือก แล้วเลือก “เปิดใช้งานโหมดซ่อนตัว” (Enable stealth mode)

2. เข้ารหัสข้อมูลทั้งดิสก์ด้วย FileVault (Full-Disk Encryption)

หากคอมพิวเตอร์ Mac ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย คุณสมบัติ FileVault คือปราการด่านสุดท้ายที่จะป้องกันไม่ให้ใครเข้าถึงข้อมูลสำคัญของคุณได้

  • ความสำคัญ: FileVault จะทำการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดบนฮาร์ดไดรฟ์ ทำให้ข้อมูลไม่สามารถอ่านได้หากไม่มีรหัสผ่านเข้าสู่ระบบของคุณ
  • วิธีตั้งค่า: ไปที่เมนู Apple > การตั้งค่าระบบ > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > FileVault แล้วคลิก “เปิดใช้ FileVault” (Turn on FileVault)

3. ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและเป็นเอกลักษณ์ (Use Secure, Unique Passwords)

แม้จะไม่ใช่ ‘การตั้งค่า’ ในเชิงเทคนิค แต่การใช้รหัสผ่านคือการป้องกันด่านแรกที่สำคัญที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้รหัสผ่านที่มีความยาวและซับซ้อน

  • ลักษณะรหัสผ่านที่ดี: ควรมีความยาวอย่างน้อย 16 ตัวอักษร ผสมผสานตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์
  • เครื่องมือช่วย: ใช้ iCloud Keychain หรือโปรแกรมจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) อื่น ๆ เพื่อสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละบัญชี

สรุปและข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

การโจมตีทางไซเบอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บน Windows อีกต่อไป ผู้ใช้งาน Mac ทุกคนต้องรับผิดชอบในการปกป้องอุปกรณ์ของตนเอง การเปิดใช้งาน Stealth Mode, FileVault, และการใช้ รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง คือรากฐานความปลอดภัยที่คุณสามารถทำได้ทันที

อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การดำเนินการเชิงรุกเหล่านี้จะช่วยลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อของการโจมตีได้อย่างมีนัยสำคัญ จงตรวจสอบการตั้งค่าเหล่านี้เป็นประจำ และอย่าลืม อัปเดต macOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอเพื่อรับแพตช์ความปลอดภัยใหม่ ๆ ที่ Apple ปล่อยออกมา

อ้างอิงจาก : https://www.dailyrecord.co.uk/news/science-technology/apple-mac-users-should-change-36072442