เริ่มทำ SEO อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?

เริ่มทำ SEO อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

เริ่มทำ SEO อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีเว็บไซต์แล้วแต่ไม่มีคนเข้ามาชม การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกสามารถช่วยเพิ่มทราฟฟิก (Traffic) ได้ ว่าแต่จะทำเอง หรือจะจ้างคนอื่นมาช่วยทำดี แล้วถ้าหากจ้าง บริการเกี่ยวกับการตลาดก็ราคาค่อนข้างสูง แถมยังไม่รู้ว่าจะได้ผลแค่ไหน คิดแล้วยิ่งท้อไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ลองอ่านบทความนี้ดูก่อนอาจจะช่วยตอบคำถามเบื้องต้นได้ และทำให้เริ่มต้นทำ SEO ได้ง่ายขึ้นครับ 

หลายคนคงรู้จักวิธีการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google มาบ้าง แต่อาจไม่รู้ว่าจะเริ่มทำจากตรงไหน วันนี้ผมมีคำแนะนำง่าย ๆ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำให้เว็บของตัวเองมี Traffic จากการเสิร์ชบนเสิร์ชเอนจิน (Search Engine) ชื่อดังอย่าง Google ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เกริ่นมาเสียยืดยาวแล้ว เริ่มกันเลยดีกว่าครับ

อันดับแรก แน่นอนอยู่แล้วว่าคุณต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเสียก่อน ความเป็นจริงคือควรวางแผนเว็บไซต์ก่อนจะเริ่ม SEO ซะด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากคุณไม่มีเว็บเป็นของตัวเอง นั่นหมายความว่าการ Optimize ข้อมูลต่าง ๆ แทบจะไม่ค่อยจะเห็นผลสักเท่าไหร่ เช่น ถ้าคุณทำ SEO ให้ Youtube ของคุณอยู่หน้าแรก แต่ถ้าวันหนึ่งมีเหตุให้เลิกใช้ Youtube ทุกอย่างที่ทุ่มเทลงไปนั้นจะสูญเปล่าทันที ดังนั้นจึงควรจะมีเว็บไซต์ของตัวเองเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นซื้อโดเมน เช่า Hosting หรือลง WordPress ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับยุคนี้แล้ว ลองอ่าน 5 ข้อสำคัญในการเลือก Hosting เผื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อได้ครับ

มีบัญชี Google

เมื่อมีเว็บไซต์แล้ว สิ่งต่อไปที่คุณจะต้องทำก็คือการติดตั้งตัววัดจำนวนคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ และติดตามข้อมูลว่าผู้ชมเหล่านั้นเป็นใคร เข้ามาเมื่อไหร่ จากประเทศอะไร เข้ามาด้วยคีย์เวิร์ดอะไร สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาการไต่อันดับบน “ผลการค้นหาของเสิร์ชเอนจิน” หรือที่เราเรียกกันว่า SERP (Search engine results page) ซึ่งสิ่งที่ต้องใช้ในการไต่อันดับ มีดังต่อไปนี้

  1. Google analytic ใช้ดูข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างทรงคุณภาพมาก
  2. Google Search Console ใช้ตรวจสอบทางเทคนิคอล เช่น Sitemap การ Crawl ของ Google หรือปัญหาประเภทต่าง ๆ เป็นต้น
  3. Google Tag Manager เอาไว้ควบคุม Tag ต่าง ๆ สามารถตรวจสอบการกดปุ่มบางปุ่ม ตรวจสอบการดาวโหลดไฟล์ ตรวจสอบว่ามีการอ่านบทความไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์

รู้จักใช้เครื่องมือในการตรวจสอบ

ปัจจุบันเครื่องมือมีเยอะ ทั้งแบบให้ลองทดสอบและเสียเงินและฟรี ลองอ่านบทความ Ubersuggest – ทดลองใช้ฟรี เครื่องมือใช้เลือก SEO Keyword ไว้ทำ Content เครื่องมือตัวนี้มีเวอร์ชันฟรีที่ทำให้เราดูได้ว่าตอนนี้เว็บของเราตามคู่แข่งอยู่แค่ไหน หรือเราต้องทำอะไรเพิ่มเติมจากที่ขาดไปบ้าง เช่น ต้องมี H1 H2 หรือ Meta description ฯลฯ

มีเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์

หากเว็บไซต์ของคุณไม่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เลย ย่อมทำให้ยากที่จะไต่อันดับไปยังหน้าแรกได้ เพราะการที่ Google จะดึงเว็บเราขึ้นไปแสดงผลให้ผู้ใช้งานเห็นได้นั้น ระบบต้องเห็นว่าเว็บไซต์เรามีประโยชน์จริง ๆ ไม่ใช่มีแค่หน้า About us หรือ ‘เกี่ยวกับเรา’ หน้าเดียว ซึ่งนั่นนับเป็นความหวังที่เป็นไปได้ยากมากถ้าคนที่ค้นหาไม่ได้พิมพ์คีย์เวิร์ดที่เป็นชื่อเว็บไซต์หรือแบรนด์ตรงๆ โอกาสที่จะไปอยู่หน้าแรกๆ ก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเลย

เนื้อหาในเว็บไซต์ต้องไม่คัดลอกมาจากที่อื่น

พอบอกว่าต้องมีเนื้อหาที่มีประโยชน์ หลายอาจเกิดความคิดจะคัดลอกจากเว็บอื่นแล้วเอามาใส่ในเว็บตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะขึ้นหน้าแรก ถ้าคิดแบบนั้นก็ขอให้หยุดความคิดไว้ก่อนเลยครับ เพราะอากู๋ของเรามีความสามารถในการตรวจสอบคอนเทนต์ที่ซ้ำกัน และถ้าหากตรวจพบก็จะแบนเว็บไซต์ที่ลอกมาทันที นั่นหมายความว่ายิ่งคุณลอกคนอื่นมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะหายไปจาก SERP (Search Engine Result Page) ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นผลิตคอนเทนต์ของตัวเอง และหลีกเลี่ยงคอนเทนต์ที่ซ้ำกับเว็บอื่นจะดีกว่าครับ 

มีวินัยในการทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์

วินัยเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการไต่อันดับมาก ๆ ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่แข่ง SEO กับคู่แข่งอย่างเดียว เรายังต้องแข่งขันกับเฟสบุ๊กที่มีทั้งคนอัปเดตสถานะของตนเอง โพสต์ขายของจากแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงทวิตเตอร์ที่มีทั้งคนเขียนและ retweet และยังมี Pantip ที่มีคนเข้ามาคนตั้งกระทู้คำถามต่าง ๆ นา ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนถูกนับว่าเป็นคอนเทนต์ทั้งนั้น ดังนั้นคอนเทนต์ของคุณจะจมหายไปในเสิร์ชเอนจินง่ายมาก ภายในเวลาเพียงแค่ข้ามวันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากไม่ขยันสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง  Google ก็จะหันไปสนใจคู่แข่งที่มีความสามารถในการทำคอนเทนต์คุณภาพมากกว่าแทนเว็บไซต์ของเรา

Social Signal จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมาย หน้าแรกของ Google

ทุกวันนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในโลกออนไลน์ก็คือโซเชียลมีเดีย (Social Media) Gogole เองก็ให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดียไม่แพ้กัน ดังนั้น บทความของคุณที่ถูกแชร์บนสื่อสังคมออนไลน์ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีซึ่งช่วยชี้ให้เห็นว่าบทความนั้นน่าสนใจ มีคนอ่าน มีคนแชร์ สัญญาณนี้เราเรียกมันว่า “Social Signal” ดังนั้นบทความของคุณจึงควรที่จะมีปุ่มแชร์ไปบนแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ ให้ใช้งานได้ง่ายด้วย เพื่อสร้างโอกาสในการบอกต่อไปอีก

หาความรู้ด้าน SEO อยู่ตลอด

อย่าหยุดเรียนรู้ Google มีเปลี่ยนอัลกอริทึมอยู่ตลอดเวลา ความรู้ของคุณในวันนี้อาจจะไม่สามารถใช้งานได้อีกใน 3 เดือนข้างหน้าก็ได้ หรือสิ่งที่คุณทำแล้วเกิดผลดีวันนี้ ในอนาคตอาจจะส่งผลด้านลบให้ Ranking ของคุณตกต่ำไปอย่างไม่น่าเชื่อก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าอยากจะประสบความสำเร็จทางด้านนี้ ก็ต้องหมั่นค้นคว้าเรียนรู้มันอยู่เสมอ

อย่าท้อ SEO จะเห็นผลได้ก็กินเวลา 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ

คำถามที่ได้ยินมาตลอดคือ “ทำ SEO กี่เดือนจะเห็นผล?” จะบอกว่าคำถามนี้ไม่สามารถตอบได้เลยครับ เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมาก ๆ ตั้งแต่อายุของโดเมน คอนเทนต์ที่มี คีย์เวิร์ดที่เลือก รวมถึงคำนวณหน้าที่ Google เก็บข้อมูลไป หรือที่เราเรียกว่า Indexed pages ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยในการไต่อันดับทั้งนั้น เอาเป็นว่าลองลุยไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด แล้วอีกสัก 6 เดือนค่อยมาดูกันว่าผลเป็นอย่างไรครับ

จบไปแล้วนะครับ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้น SEO ไม่มากก็น้อยทีเดียว ค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อย ๆ และลองหัดทำดู เริ่มตั้งแต่วันนี้ ทำไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ รับรองผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้เรามีความสุขอย่างแน่นอนครับ แต่เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจเริ่มทำอย่างจริงจัง บทความนี้ 5 เทคนิค SEO สำหรับมือใหม่ ทำด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด จะช่วยแนะนำเทคนิคเบื้องต้นง่าย ๆ เพื่อให้นำไปปรับใช้กับการทำ SEO พื้นฐานได้ครับ

สามารถติดตามบทความดี ๆ ที่เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์จริงได้ในเว็บไซต์ของเรา anatobom.com/blog ทีจะ update เรื่อย ๆ อย่าลืมติดตามกันนะครับ