Site icon Anat Obom

Programmatic SEO ด้วย AI: เทคนิคสร้างคอนเทนต์ SEO นับร้อยหน้าที่ Google รักโดยอัตโนมัติ

ในโรงไม้ของผม ถ้าผมอยากจะสร้างกล่องไม้ขนาดที่กำหนดเอง 50 ใบ… วิธีแบบเก่าคือผมต้องวัดขนาด, ตัดไม้, และประกอบกล่องแต่ละใบด้วยมือทีละใบๆ ซึ่งอาจจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์

แต่วิธีของ “เมกเกอร์” คือการสร้าง “จิ๊ก” (Jig) หรือ “แม่แบบ” ขึ้นมาก่อนครับ ผมจะใช้เวลาออกแบบและสร้างแม่แบบที่สมบูรณ์แบบนี้แค่ครั้งเดียว แต่หลังจากนั้น ผมสามารถใช้มันเพื่อผลิตกล่องทั้ง 50 ใบออกมาได้ด้วยความเร็วและความแม่นยำที่สม่ำเสมออย่างน่าทึ่ง

เพื่อนๆ ครับ… ในโลกของการสร้างคอนเทนต์ ก็มี “จิ๊ก” แบบเดียวกันนี้อยู่เหมือนกัน และมันคือ “อาวุธลับ” ที่เว็บไซต์ขนาดใหญ่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บนับพันนับหมื่นหน้าเพื่อครองอันดับการค้นหาของ Google เราเรียกเทคนิคนี้ว่า “Programmatic SEO” (pSEO) ครับ

วันนี้ผมจะมาเปิดเผย “แบบแปลน” การสร้าง “เครื่องจักรผลิตคอนเทนต์” นี้กัน โดยจะแสดงให้เห็นว่าเมื่อเราผนวกพลังของ pSEO เข้ากับ AI แล้ว คนตัวเล็กๆ อย่างเราจะสามารถสร้างคอนเทนต์ในสเกลที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

คุยภาษา Martech: Programmatic SEO (pSEO) คืออะไร? มันไม่ใช่ “คอนเทนต์ขยะ”

ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอเคลียร์ความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุดก่อน: pSEO ไม่ใช่การสร้างคอนเทนต์สแปมหรือคอนเทนต์ขยะที่ไม่มีคุณภาพ

pSEO คือ “การสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงที่มีโครงสร้างเดียวกันซ้ำๆ (Templated Content) ในปริมาณมาก (At Scale) โดยใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล”

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เรามาดูตัวอย่างระดับโลกที่พวกเราทุกคนรู้จักกันดี:

เห็นไหมครับ? หัวใจของมันคือการหา “รูปแบบ” ที่ทำซ้ำได้ แล้วใช้ “ข้อมูล” มาสร้างความแตกต่างในแต่ละหน้า

แบบแปลนของ “เครื่องจักรผลิตคอนเทนต์”: 3 ส่วนประกอบที่ต้องมี

เครื่องจักร pSEO ของเราประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ ที่ทำงานร่วมกันครับ

  1. “ฐานข้อมูล” (The Database): หรือ “กองไม้” ของเรา นี่คือหัวใจและวัตถุดิบของเราครับ มันคือแหล่งรวบรวมข้อมูลที่เราต้องการนำมาสร้างเป็นหน้าเว็บ สำหรับพวกเราคนตัวเล็กๆ ไม่ต้องคิดถึง Database ที่ซับซ้อนเลยครับ… Google Sheets คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา!
    • ตัวอย่าง: ถ้าเราอยากจะสร้างเว็บรีวิว “ร้านกาแฟ Specialty ในกรุงเทพฯ” ฐานข้อมูลของเราใน Google Sheets อาจจะมีคอลัมน์ดังนี้: ชื่อร้าน, ชื่อย่าน, ประเภทเมล็ดกาแฟที่แนะนำ, จุดเด่นของร้าน, ช่วงราคา
  2. “แม่แบบ” (The Template): หรือ “จิ๊ก” ประจำโรงไม้ของเรา นี่คือโครงสร้างของหน้าเว็บที่เราจะสร้างซ้ำๆ ครับ ใน WordPress มันก็คือการออกแบบ “รูปแบบโพสต์” หนึ่งโพสต์ให้ดีที่สุด โดยมีการเว้นช่องว่างสำหรับข้อมูลที่จะดึงมาจากฐานข้อมูลของเรา
    • ตัวอย่าง: เราอาจจะออกแบบโครงสร้างบทความไว้ว่า: (ชื่อ Field ภาษาไทย รบกวนเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษในต้องใช้งานจริงด้วยนะครับ ที่เขียนเป็นไทยไว้จะได้อ่านง่ายๆ)
      • หัวข้อ (H1): รีวิวร้าน {{ชื่อร้าน}}: คาเฟ่ที่ดีที่สุดในย่าน {{ชื่อย่าน}}
      • ย่อหน้าแรก: {{ชื่อร้าน}} คือร้านกาแฟ Specialty ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่าน {{ชื่อย่าน}} ที่โดดเด่นด้วย {{จุดเด่นของร้าน}}
      • ตารางข้อมูล: | เมล็ดกาแฟแนะนำ | ช่วงราคา | | :— | :— | | {{ประเภทเมล็ดกาแฟที่แนะนำ}} | {{ช่วงราคา}} |
  3. “เครื่องจักรประกอบร่าง” (The Assembly Machine): หรือ “แขนกล” ของเรา นี่คือกลไกที่จะนำ “ข้อมูล” จากฐานข้อมูล มา “ประกอบร่าง” กับ “แม่แบบ” ของเราเพื่อสร้างเป็นหน้าเว็บจริงๆ ขึ้นมา ซึ่งมี 2 วิธีหลักๆ ครับ:
    • วิธี No-Code: ใช้ปลั๊กอินของ WordPress ที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เช่น WP All Import ซึ่งสามารถอ่านไฟล์ CSV (ที่เรา Export มาจาก Google Sheets) แล้วนำข้อมูลแต่ละคอลัมน์ไปใส่ในช่องต่างๆ ของโพสต์ตามที่เรากำหนดไว้ได้
    • วิธีของ Developer: สำหรับคนที่พอจะเขียนโค้ดได้ (อย่างผม) อาจจะเขียนสคริปต์ง่ายๆ (เช่น Python) เพื่อดึงข้อมูลจาก Google Sheets API แล้วสร้างเป็นไฟล์สำหรับ WordPress โดยตรง ซึ่งจะให้ความยืดหยุ่นสูงสุด

แบบแปลนโค้ด (Pseudo-code) สำหรับ “เครื่องจักรผลิตคอนเทนต์” ด้วย Python

เป้าหมาย: สร้าง “แขนกลหุ่นยนต์” (สคริปต์ Python) ที่จะเดินไปหยิบ “รายการวัตถุดิบ” (ข้อมูลจาก Google Sheets) แล้วนำมา “ประกอบ” เป็น “ผลงาน” (โพสต์ใน WordPress) โดยอัตโนมัติ

Step 0: การเตรียม “โต๊ะทำงาน” (Preparation)

ก่อนจะเริ่มเขียนโค้ด เราต้องเตรียม “เครื่องมือ” กับ “กุญแจ” ก่อนครับ

เมื่อเตรียมของครบแล้ว ก็ถึงเวลาเขียน “โปรแกรม” ให้แขนกลของเราแล้วครับ! เป็นแค่ตัวอย่างให้เข้าใจนะครับ มันต้องมีขั้นต้อนการขอ secret key โน่นนี่อีกเยอะเลย กลัว บทความนี้มันจะยาวไป


Step 1: เชื่อมต่อกับ “คลังข้อมูล” (Connect to Google Sheets)

        "# 1. \u0e19\u0e33\u0e40\u0e02\u0e49\u0e32\u0e0a\u0e38\u0e14\u0e40\u0e04\u0e23\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e07\u0e21\u0e37\u0e2d\u0e17\u0e35\u0e48\u0e08\u0e33\u0e40\u0e1b\u0e47\u0e19\nimport gspread\nimport requests\n\n# 2. \u0e43\u0e0a\u0e49 \"\u0e01\u0e38\u0e0d\u0e41\u0e08\u0e04\u0e25\u0e31\u0e07\u0e02\u0e49\u0e2d\u0e21\u0e39\u0e25\" \u0e40\u0e1e\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e02\u0e2d\u0e2d\u0e19\u0e38\u0e0d\u0e32\u0e15\u0e40\u0e02\u0e49\u0e32\u0e16\u0e36\u0e07 Google\ngoogle_auth = gspread.service_account(filename=\"your-secret-key.json\")\n\n# 3. \u0e40\u0e1b\u0e34\u0e14 \"\u0e2a\u0e21\u0e38\u0e14\u0e1a\u0e31\u0e0d\u0e0a\u0e35\" \u0e2b\u0e23\u0e37\u0e2d Spreadsheet \u0e17\u0e35\u0e48\u0e40\u0e23\u0e32\u0e15\u0e49\u0e2d\u0e07\u0e01\u0e32\u0e23 (\u0e23\u0e30\u0e1a\u0e38\u0e0a\u0e37\u0e48\u0e2d)\nspreadsheet = google_auth.open(\"My PSEO Database\")\n\n# 4. \u0e40\u0e25\u0e37\u0e2d\u0e01 \"\u0e2b\u0e19\u0e49\u0e32\" \u0e17\u0e35\u0e48\u0e16\u0e39\u0e01\u0e15\u0e49\u0e2d\u0e07\u0e43\u0e19\u0e2a\u0e21\u0e38\u0e14\u0e1a\u0e31\u0e0d\u0e0a\u0e35\u0e19\u0e31\u0e49\u0e19\nworksheet = spreadsheet.worksheet(\"Bangkok Cafes\")\n\n# 5. \u0e2a\u0e31\u0e48\u0e07\u0e43\u0e2b\u0e49\u0e41\u0e02\u0e19\u0e01\u0e25 \"\u0e2d\u0e48\u0e32\u0e19\u0e02\u0e49\u0e2d\u0e21\u0e39\u0e25\u0e17\u0e31\u0e49\u0e07\u0e2b\u0e21\u0e14\" \u0e43\u0e19\u0e2b\u0e19\u0e49\u0e32\u0e19\u0e31\u0e49\u0e19\n# \u0e41\u0e25\u0e49\u0e27\u0e41\u0e1b\u0e25\u0e07\u0e43\u0e2b\u0e49\u0e40\u0e1b\u0e47\u0e19\u0e25\u0e34\u0e2a\u0e15\u0e4c\u0e02\u0e2d\u0e07\u0e01\u0e32\u0e23\u0e4c\u0e14\u0e02\u0e49\u0e2d\u0e21\u0e39\u0e25 (List of Dictionaries) \u0e40\u0e1e\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e07\u0e48\u0e32\u0e22\u0e15\u0e48\u0e2d\u0e01\u0e32\u0e23\u0e43\u0e0a\u0e49\u0e07\u0e32\u0e19\nall_data = worksheet.get_all_records()"    

คำอธิบายแบบเพื่อนสายเมกเกอร์: ขั้นตอนนี้คือการบอกแขนกลของเราว่า "เฮ้! เอาบัตรอนุญาตนี่ไป แล้วเดินไปที่ตู้เอกสารที่ชื่อ 'My PSEO Database' นะ เปิดไปที่แฟ้ม 'Bangkok Cafes' แล้วหยิบการ์ดข้อมูลทั้งหมดในนั้นออกมา"

Step 2: วนลูปอ่าน “การ์ดข้อมูล” ทีละใบ (Loop Through The Data)

        "# 6. \u0e40\u0e23\u0e34\u0e48\u0e21\u0e15\u0e49\u0e19\u0e01\u0e23\u0e30\u0e1a\u0e27\u0e19\u0e01\u0e32\u0e23\u0e1c\u0e25\u0e34\u0e15 \u0e42\u0e14\u0e22\u0e14\u0e39\u0e01\u0e32\u0e23\u0e4c\u0e14\u0e02\u0e49\u0e2d\u0e21\u0e39\u0e25\u0e17\u0e35\u0e25\u0e30\u0e43\u0e1a\nfor row_data in all_data:\n\n# 7. \u0e2b\u0e22\u0e34\u0e1a\u0e02\u0e49\u0e2d\u0e21\u0e39\u0e25\u0e08\u0e32\u0e01\u0e01\u0e32\u0e23\u0e4c\u0e14\u0e41\u0e15\u0e48\u0e25\u0e30\u0e43\u0e1a\u0e21\u0e32\u0e43\u0e2a\u0e48\u0e15\u0e31\u0e27\u0e41\u0e1b\u0e23\n# \u0e0a\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e04\u0e2d\u0e25\u0e31\u0e21\u0e19\u0e4c\u0e43\u0e19 Google Sheets \u0e08\u0e30\u0e01\u0e25\u0e32\u0e22\u0e40\u0e1b\u0e47\u0e19 \"\u0e0a\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e0a\u0e48\u0e2d\u0e07\" \u0e1a\u0e19\u0e01\u0e32\u0e23\u0e4c\u0e14\n    cafe_name = row_data['\u0e0a\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e23\u0e49\u0e32\u0e19']\n    district = row_data['\u0e0a\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e22\u0e48\u0e32\u0e19']\n    unique_paragraph = row_data['unique_intro_paragraph']\n# ...\u0e2b\u0e22\u0e34\u0e1a\u0e02\u0e49\u0e2d\u0e21\u0e39\u0e25\u0e2d\u0e37\u0e48\u0e19\u0e46 \u0e15\u0e32\u0e21\u0e17\u0e35\u0e48\u0e40\u0e23\u0e32\u0e15\u0e49\u0e2d\u0e07\u0e01\u0e32\u0e23...\n\n# >> \u0e04\u0e33\u0e2a\u0e31\u0e48\u0e07\u0e43\u0e19\u0e02\u0e31\u0e49\u0e19\u0e15\u0e2d\u0e19\u0e15\u0e48\u0e2d\u0e44\u0e1b\u0e08\u0e30\u0e2d\u0e22\u0e39\u0e48\u0e43\u0e19 Loop \u0e19\u0e35\u0e49\u0e17\u0e31\u0e49\u0e07\u0e2b\u0e21\u0e14 <<\n"    


คำอธิบายแบบเพื่อนสายเมกเกอร์: ตอนนี้แขนกลของเราเริ่มทำงานแล้ว มันจะหยิบ "การ์ดข้อมูล" (ข้อมูล 1 แถว) ขึ้นมาทีละใบ แล้วอ่านว่า "โอเค การ์ดใบนี้สำหรับร้านชื่อนี้นะ อยู่ย่านนี้นะ มีเนื้อหาพิเศษแบบนี้นะ"

Step 3: ประกอบร่าง “โพสต์” (Prepare the Post Data)

        "    # 8. (\u0e22\u0e31\u0e07\u0e2d\u0e22\u0e39\u0e48\u0e43\u0e19 Loop) \u0e40\u0e15\u0e23\u0e35\u0e22\u0e21 \"\u0e0a\u0e34\u0e49\u0e19\u0e2a\u0e48\u0e27\u0e19\" \u0e17\u0e35\u0e48\u0e08\u0e30\u0e2a\u0e48\u0e07\u0e44\u0e1b WordPress\n    # \u0e42\u0e14\u0e22\u0e08\u0e31\u0e14\u0e23\u0e39\u0e1b\u0e41\u0e1a\u0e1a\u0e43\u0e2b\u0e49\u0e15\u0e23\u0e07\u0e15\u0e32\u0e21 \"\u0e41\u0e1a\u0e1a\u0e41\u0e1b\u0e25\u0e19\" \u0e17\u0e35\u0e48 WordPress \u0e01\u0e33\u0e2b\u0e19\u0e14\n    post_title = f\"\u0e23\u0e35\u0e27\u0e34\u0e27\u0e23\u0e49\u0e32\u0e19 {cafe_name}: \u0e04\u0e32\u0e40\u0e1f\u0e48\u0e17\u0e35\u0e48\u0e14\u0e35\u0e17\u0e35\u0e48\u0e2a\u0e38\u0e14\u0e43\u0e19\u0e22\u0e48\u0e32\u0e19 {district}\"\n    post_content = f\"<h1>{post_title}<\/h1><p>{unique_paragraph}<\/p><p>\u0e2d\u0e48\u0e32\u0e19\u0e15\u0e48\u0e2d...<\/p>\"\n# 9. \u0e2a\u0e23\u0e49\u0e32\u0e07 \"\u0e01\u0e25\u0e48\u0e2d\u0e07\u0e1e\u0e31\u0e2a\u0e14\u0e38\" (JSON Payload) \u0e17\u0e35\u0e48\u0e08\u0e30\u0e2a\u0e48\u0e07\u0e44\u0e1b\n    post_payload = {\n        'title': post_title,\n        'content': post_content,\n        'status': 'draft',  # \u0e15\u0e31\u0e49\u0e07\u0e40\u0e1b\u0e47\u0e19 'draft' (\u0e09\u0e1a\u0e31\u0e1a\u0e23\u0e48\u0e32\u0e07) \u0e01\u0e48\u0e2d\u0e19\u0e40\u0e1e\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e04\u0e27\u0e32\u0e21\u0e1b\u0e25\u0e2d\u0e14\u0e20\u0e31\u0e22 \u0e2b\u0e23\u0e37\u0e2d 'publish' \u0e40\u0e1e\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e40\u0e1c\u0e22\u0e41\u0e1e\u0e23\u0e48\u0e40\u0e25\u0e22\n        'categories': [15] # \u0e43\u0e2a\u0e48 ID \u0e02\u0e2d\u0e07 Category \u0e17\u0e35\u0e48\u0e40\u0e23\u0e32\u0e15\u0e49\u0e2d\u0e07\u0e01\u0e32\u0e23\n    }"    

คำอธิบายแบบเพื่อนสายเมกเกอร์: หลังจากที่แขนกลอ่านข้อมูลจากการ์ดแล้ว มันก็จะเริ่ม “ประกอบ” ชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันตามแบบแปลน เช่น เอาชื่อร้านกับชื่อย่านมาประกอบกันเป็น “หัวข้อ” แล้วเอาเนื้อหาพิเศษมาประกอบเป็น “เนื้อหาหลัก” จากนั้นก็แพ็คทุกอย่างลงกล่องพัสดุที่จ่าหน้าซองอย่างถูกต้อง


Step 4: ส่งข้อมูลไปยัง “โชว์รูม” (Send to WordPress)

        "# 10. (\u0e22\u0e31\u0e07\u0e2d\u0e22\u0e39\u0e48\u0e43\u0e19 Loop) \u0e23\u0e30\u0e1a\u0e38 \"\u0e17\u0e35\u0e48\u0e2d\u0e22\u0e39\u0e48\u0e02\u0e2d\u0e07\u0e42\u0e0a\u0e27\u0e4c\u0e23\u0e39\u0e21\" \u0e41\u0e25\u0e30 \"\u0e01\u0e38\u0e0d\u0e41\u0e08\"\n    wordpress_url = \"https:\/\/yourwebsite.com\/wp-json\/wp\/v2\/posts\"\n    wp_user = \"your_username\"\n    wp_password = \"your_wordpress_application_password\" # \u0e43\u0e0a\u0e49\u0e01\u0e38\u0e0d\u0e41\u0e08\u0e17\u0e35\u0e48\u0e2a\u0e23\u0e49\u0e32\u0e07\u0e08\u0e32\u0e01 Step 0\n\n# 11. \u0e2a\u0e31\u0e48\u0e07\u0e43\u0e2b\u0e49\u0e41\u0e02\u0e19\u0e01\u0e25 \"\u0e2a\u0e48\u0e07\u0e01\u0e25\u0e48\u0e2d\u0e07\u0e1e\u0e31\u0e2a\u0e14\u0e38\" \u0e44\u0e1b\u0e22\u0e31\u0e07\u0e42\u0e0a\u0e27\u0e4c\u0e23\u0e39\u0e21\n    response = requests.post(wordpress_url, auth=(wp_user, wp_password), json=post_payload)\n\n# 12. \u0e15\u0e23\u0e27\u0e08\u0e2a\u0e2d\u0e1a\u0e2a\u0e16\u0e32\u0e19\u0e30\u0e01\u0e32\u0e23\u0e2a\u0e48\u0e07 \u0e41\u0e25\u0e49\u0e27\u0e15\u0e30\u0e42\u0e01\u0e19\u0e1a\u0e2d\u0e01\u0e40\u0e23\u0e32\u0e27\u0e48\u0e32\u0e2a\u0e33\u0e40\u0e23\u0e47\u0e08\u0e2b\u0e23\u0e37\u0e2d\u0e44\u0e21\u0e48\n    if response.status_code == 201: # 201 \u0e2b\u0e21\u0e32\u0e22\u0e16\u0e36\u0e07 \"\u0e2a\u0e23\u0e49\u0e32\u0e07\u0e2a\u0e33\u0e40\u0e23\u0e47\u0e08\"\n        print(f\"\u0e40\u0e22\u0e49! \u0e2a\u0e23\u0e49\u0e32\u0e07\u0e42\u0e1e\u0e2a\u0e15\u0e4c\u0e2a\u0e33\u0e2b\u0e23\u0e31\u0e1a '{cafe_name}' \u0e2a\u0e33\u0e40\u0e23\u0e47\u0e08\u0e41\u0e25\u0e49\u0e27!\")\n    else:\n        print(f\"\u0e42\u0e2d\u0e4a\u0e30! \u0e21\u0e35\u0e1b\u0e31\u0e0d\u0e2b\u0e32\u0e15\u0e2d\u0e19\u0e2a\u0e23\u0e49\u0e32\u0e07\u0e42\u0e1e\u0e2a\u0e15\u0e4c\u0e2a\u0e33\u0e2b\u0e23\u0e31\u0e1a '{cafe_name}': {response.text}\")\n\n# 13. (\u0e08\u0e1a Loop) \u0e40\u0e21\u0e37\u0e48\u0e2d\u0e41\u0e02\u0e19\u0e01\u0e25\u0e17\u0e33\u0e07\u0e32\u0e19\u0e04\u0e23\u0e1a\u0e17\u0e38\u0e01\u0e01\u0e32\u0e23\u0e4c\u0e14\u0e41\u0e25\u0e49\u0e27 \u0e01\u0e47\u0e1a\u0e2d\u0e01\u0e27\u0e48\u0e32\u0e07\u0e32\u0e19\u0e40\u0e2a\u0e23\u0e47\u0e08\u0e41\u0e25\u0e49\u0e27\nprint(\"\u0e17\u0e33\u0e07\u0e32\u0e19\u0e40\u0e2a\u0e23\u0e47\u0e08\u0e2a\u0e34\u0e49\u0e19! \u0e42\u0e1e\u0e2a\u0e15\u0e4c\u0e17\u0e31\u0e49\u0e07\u0e2b\u0e21\u0e14\u0e16\u0e39\u0e01\u0e2a\u0e48\u0e07\u0e44\u0e1b\u0e17\u0e35\u0e48 WordPress \u0e40\u0e23\u0e35\u0e22\u0e1a\u0e23\u0e49\u0e2d\u0e22\u0e41\u0e25\u0e49\u0e27\")"    

คำอธิบายแบบเพื่อนสายเมกเกอร์: นี่คือขั้นตอนสุดท้าย แขนกลของเราจะยก “กล่องพัสดุ” ที่ประกอบเสร็จแล้ว เดินไปที่ “ประตูขนส่ง” (URL ของ WordPress) ใช้ “กุญแจ” ที่ถูกต้องไขเข้าไป แล้ววางของลงไป จากนั้นก็กลับมารายงานเราว่า “ส่งของเรียบร้อยครับ!” แล้วก็วนกลับไปหยิบการ์ดข้อมูลใบต่อไปมาทำซ้ำจนหมด

Case Study: สร้าง “คู่มือเที่ยวย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ” ด้วย Google Sheets และ AI

เพื่อให้เห็นภาพการทำงานจริง ผมจะจำลองโปรเจกต์เล็กๆ ที่เราสามารถทำตามได้เลยครับ

ขั้นตอนที่ 1: สร้าง “ฐานข้อมูล” ด้วย AI ผมเปิด Gemini ขึ้นมาแล้วใช้ Prompt นี้:

"Act as a local Bangkok travel guide. Create a table in markdown format for 10 interesting districts in Bangkok. The columns should be: 'District Name (Thai)', 'District Name (English)', 'Key Vibe (e.g., Old Town Charm, Modern Hub)', 'Must-Try Street Food', and 'Hidden Gem Cafe'." ผลลัพธ์: ผมจะได้ตารางข้อมูลดิบที่พร้อมใช้งานใน Google Sheets ทันที

ขั้นตอนที่ 2: ออกแบบ “แม่แบบ” ใน WordPress ผมจะสร้างโพสต์ต้นแบบขึ้นมา 1 โพสต์ โดยใส่ “ตัวยึดตำแหน่ง” (Placeholder) ไว้ในจุดที่ต้องการให้ข้อมูลเปลี่ยนแปลง เช่น:

ขั้นตอนที่ 3: ใช้ AI ช่วย “เขียนเนื้อหาให้ไม่ซ้ำใคร” (The Magic Step!) นี่คือเคล็ดลับที่จะทำให้ pSEO ของเรามีคุณภาพสูงสุดครับ แทนที่จะใช้ข้อมูลดิบๆ มาแสดงผลอย่างเดียว เราจะใช้ AI ช่วย “ขยายความ” ข้อมูลแต่ละแถวให้กลายเป็นย่อหน้าที่ไม่ซ้ำใคร

ผมจะสร้าง Prompt ที่เป็นเหมือนแม่แบบขึ้นมา แล้ววนลูปใส่ข้อมูลทีละแถวจาก Google Sheets ของเรา:

"Act as a travel blogger. Using the following data points: District Name = [ใส่ชื่อย่านจากชีต], Key Vibe = [ใส่ Vibe จากชีต], Street Food = [ใส่ Street Food จากชีต], Cafe = [ใส่ Cafe จากชีต]. Write an engaging and unique 200-word introductory paragraph for a travel guide about this district. The tone should be friendly and exciting. Weave all the data points into the paragraph naturally." จากนั้นเราจะนำย่อหน้าที่ได้ไปใส่ในอีกคอลัมน์หนึ่งของ Google Sheets ของเรา ชื่อว่า unique_intro_paragraph

ขั้นตอนที่ 4: “ประกอบร่าง” และเผยแพร่ สุดท้าย ผมจะ Export ไฟล์ Google Sheets ของผมเป็นไฟล์ .csv แล้วใช้ปลั๊กอินอย่าง WP All Import เพื่อ “จับคู่” แต่ละคอลัมน์ (District Name, Key Vibe, unique_intro_paragraph) ให้ไปแสดงผลใน “ตัวยึดตำแหน่ง” ที่ถูกต้องในแม่แบบ WordPress ของผม…กดปุ่มเดียว เราก็จะได้หน้าเว็บใหม่ 10 หน้าที่พร้อมเผยแพร่ทันที!

ทำไมกลยุทธ์นี้ถึงเป็นที่รักของ Google

บทสรุป: คุณไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อสร้างคอนเทนต์ในสเกลใหญ่

เพื่อนๆ ครับ Programmatic SEO ที่เคยเป็นเหมือน “มนต์ดำ” สำหรับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เท่านั้น บัดนี้ได้ถูกทำให้ “เป็นประชาธิปไตย” แล้วด้วยพลังของเครื่องมือฟรีอย่าง Google Sheets และพลังสมองของ AI

มันคือสุดยอดกลยุทธ์ของ “เมกเกอร์” อย่างแท้จริง: การลงทุนสร้าง “จิ๊ก” หรือ “ระบบ” ที่ดีเพียงครั้งเดียว เพื่อให้เราสามารถผลิตผลงานคุณภาพสูงจำนวนมากออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นี่คือวิธีที่เราจะสามารถสร้าง “คลังสมองดิจิทัล” ที่ยิ่งใหญ่และแข่งขันกับใครก็ได้ โดยเริ่มต้นจาก Spreadsheet ว่างๆ แค่หน้าเดียวครับ

Exit mobile version