Site icon Anat Obom

Deep Dive: เขียน “บทหนัง” ให้ AI – ปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่ใน JSON Prompt สำหรับ Veo

เราทุกคนต่างเคยตื่นตาตื่นใจกับพลังของ AI สร้างวิดีโออย่าง Google Veo กันมาแล้ว เราพิมพ์ประโยคบ้าๆ บอๆ อย่าง “หมีแพนด้าเล่นเซิร์ฟบอร์ดท่ามกลางพายุ” แล้วก็ได้คลิปที่น่าทึ่งออกมา… แต่หลังจากความ “ว้าว” แรกผ่านไป คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดกับ “ความเอาแน่เอานอนไม่ได้” ของมันไหมครับ?

เราสั่งให้กล้องแพนซ้าย มันดันแพนขวา เราอยากให้ตัวละครใส่เสื้อสีแดง ฉากต่อมามันดันใส่เสื้อสีน้ำเงินซะงั้น มันเหมือนเรามีนักแสดง A-List ที่เก่งมาก แต่ก็ติสท์แตกสุดๆ อยู่ในกองถ่าย เราได้แต่ภาวนาให้ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกับที่เราคิดที่สุด

ผมก็เคยเป็นแบบนั้นครับเพื่อน จนกระทั่งผมเลิก “คุย” กับ AI แบบธรรมดาๆ แล้วหันมา “เขียนแบบแปลนทางวิศวกรรม” ให้มันแทน… และเครื่องมือที่ว่านั้นก็คือ JSON Prompt

บทความนี้ไม่ใช่แค่การแนะนำว่า JSON คืออะไร แต่คือการ “เจาะลึก” ที่จะมอบ “กุญแจโรงเก็บเครื่องมือลับ” ให้กับคุณ มันจะเปลี่ยนสถานะของคุณจาก “ผู้โดยสาร” ที่ได้แต่หวังว่า AI จะพาไปถูกทาง ให้กลายเป็น “นักขับรถแข่ง F1” ที่ควบคุมทุกองศาของการเข้าโค้งได้ด้วยตัวเอง ถ้าพร้อมแล้ว…ก็คาดเข็มขัดนิรภัยให้แน่นเลยครับ!

เปลี่ยนจาก “คนบอกบท” เป็น “ผู้กำกับ”: ทำไม JSON คือ Game-Changer

การใช้ Prompt แบบข้อความธรรมดา ก็เหมือนเราเป็นแค่ “คนบอกบท” ที่ตะโกนบอกนักแสดงว่า “ฉากนี้เศร้าๆ หน่อยนะ!” ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับการตีความของนักแสดง (AI) ล้วนๆ

แต่การใช้ JSON Prompt มันคือการที่เราสวมบทบาทเป็น “ผู้กำกับภาพยนตร์” ตัวจริง เราไม่ได้ควบคุมแค่ “บทพูด” แต่เราควบคุมทุกอย่าง:

มันคือการเปลี่ยนจากการ “ขอร้อง” AI มาเป็นการ “สั่งการ” อย่างสมบูรณ์แบบครับ

ทบทวน “เครื่องมือพื้นฐาน”: โครงสร้าง JSON ที่ทุกคนต้องรู้

ก่อนจะไปที่เครื่องมือลับ เรามาทบทวน “เครื่องมือพื้นฐาน” ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานกันก่อน โครงสร้างหลักๆ ที่เราเห็นไปครั้งที่แล้วยังคงเป็นหัวใจสำคัญ: scenes, duration, camera, elements… นี่คือค้อน, เลื่อย, และตลับเมตรของเรา มันจำเป็นและต้องใช้ให้คล่อง

เปิด “ลิ้นชักลับ”: Key-Value Pairs สำหรับมือโปรที่ยกระดับวิดีโอของคุณ

เอาล่ะครับ…ตอนนี้แหละคือส่วนที่ผมอยากจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังมากที่สุด มันคือเครื่องมือที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักลับของช่างไม้ ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยเห็น แต่ถ้าใช้เป็น…ผลงานของคุณจะแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง

1. กุญแจสู่ความต่อเนื่อง: character_id และ features นี่คือ “จอกศักดิ์สิทธิ์” ของการสร้างวิดีโอด้วย AI เลยครับ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการทำให้ตัวละครหน้าตาเหมือนเดิมในทุกๆ ฉาก JSON แก้ปัญหานี้โดยการให้เรา “ประกาศตัวแปร” ของตัวละครไว้ล่วงหน้า


2. กุญแจควบคุมโชคชะตา: seed AI ทุกตัวมีสิ่งที่เรียกว่า “ค่าเริ่มต้นความสุ่ม” หรือ Seed ครับ ถ้าเราไม่กำหนดค่านี้ ทุกครั้งที่เรารัน Prompt เดิม เราจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อยเสมอ ซึ่งเป็นฝันร้ายของการทำงานที่ต้องการความแม่นยำ

3. กุญแจแห่งอารมณ์และสไตล์: style_prompts และ negative_prompts นี่คือเครื่องมือของ “ผู้กำกับศิลป์” ครับ

4. กุญแจแห่งการลำดับภาพ: transition ใน JSON Prompt สำหรับวิดีโอขั้นสูง เราสามารถกำหนด “รอยต่อ” ระหว่างฉากได้เลย

ขั้นตอนการทำงานแบบ “เมกเกอร์”: จากไอเดียในหัวสู่ไฟล์วิดีโอ

การรู้แค่ชื่อเครื่องมือไม่ทำให้เราเป็นช่างไม้ที่ดีได้ เราต้องมี “กระบวนการทำงาน” ที่ถูกต้องด้วยครับ นี่คือ Workflow ที่ผมใช้:

  1. สเก็ตช์ภาพในสมุด (Ideation): ผมจะเริ่มจากกระดาษเปล่าๆ ก่อนเสมอ เขียน Storyboard ง่ายๆ ว่าอยากเล่าอะไร มีกี่ฉาก แต่ละฉากมีอะไรสำคัญบ้าง
  2. ร่าง “แบบแปลน” หลัก (JSON Scaffolding): ผมจะยังไม่ใส่รายละเอียด แต่จะเขียนโครง JSON หลักๆ ขึ้นมาก่อน {"scenes": [{}, {}, {}]} เพื่อกำหนดจำนวนฉาก
  3. ลงรายละเอียด “แบบแปลน” (Detailed Prompting): ผมจะค่อยๆ เติมรายละเอียดในแต่ละฉาก ทั้ง description, camera, และ elements นี่คือขั้นตอนที่ใช้เวลามากที่สุด
  4. “ตัดไม้ครั้งแรก” (Initial Generation): ผมจะยังไม่ใส่ seed แล้วลองรัน Prompt ดู เพื่อดู “การตีความ” ครั้งแรกของ AI
  5. “ขัดเกลาและแก้ไข” (Iterative Refinement): เมื่อเจอผลลัพธ์ที่ “เกือบจะดี” แล้ว ผมจะหยิบค่า seed ของผลลัพธ์นั้นมาใส่ใน Prompt เพื่อ “ล็อค” มันไว้ จากนั้นผมจะเริ่มปรับแก้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น เปลี่ยนความเร็วการเคลื่อนกล้อง, แก้ไข style_prompts, หรือเพิ่ม negative_prompts แล้วรันใหม่ด้วย Seed เดิม กระบวนการนี้คือการ “ขัดเกลา” ผลงานจนกว่าจะพอใจ 100%

Case Study: สร้างวิดีโอโปรโมต “โต๊ะกาแฟไม้โอ๊ค” แบบมีสตอรี่

เราจะมาลองใช้เครื่องมือทั้งหมดนี้กับโปรเจกต์จริงกันครับ ผมอยากสร้างวิดีโอ 15 วินาที ที่ไม่ได้แค่โชว์โต๊ะ แต่เล่าเรื่อง “ความสัมพันธ์” ระหว่างช่างไม้กับผลงาน

(คุณสามารถคัดลอกทั้งหมดนี้ไปใช้ต่อได้เลย)

แบบแปลนนี้จะสร้างวิดีโอที่มีความต่อเนื่องทางอารมณ์และตัวละคร ซึ่ง Prompt แบบข้อความธรรมดาไม่มีทางทำได้ครับ

ผลลัพธ์ของ Video

https://anatobom.com/wp-content/uploads/2025/08/Coffee_Table_Ad_Generation.mp4

“จอกศักดิ์สิทธิ์” ของ AI วิดีโอ: การสร้างความต่อเนื่องข้ามคลิป (Cross-Video Consistency)

โอเคเพื่อน…ถึงตรงนี้คุณอาจจะกำลังคิดในใจว่า “มันเจ๋งมากเลยเพื่อน แต่ทั้งหมดนี้มันก็ยังอยู่ในวิดีโอ ‘คลิปเดียว’ นี่นา แล้วถ้าฉันอยากจะสร้าง ‘ซีรีส์’ ที่มีตัวละคร CraftsmanDad คนเดิมไปทำโปรเจกต์อื่นต่อล่ะ? จะทำยังไงให้ AI จำหน้าเขาได้?”

คุณเพิ่งถามคำถามที่เปรียบเสมือน “จอกศักดิ์สิทธิ์” (The Holy Grail) ของวงการ AI สร้างวิดีโอเลยครับ และนี่คือคำตอบที่คนทำงานระดับโปรเขาใช้กันอยู่ ณ ปลายปี 2025 นี้

ใน JSON Prompt ชุดแรกที่เราสร้างตัวละคร CraftsmanDad ขึ้นมานั้น AI ได้ “สร้าง” ใบหน้าและลักษณะเฉพาะของเขาขึ้นมาจากคำอธิบายของเราก็จริง แต่เมื่อเรารัน Prompt ใหม่สำหรับวิดีโอตัวต่อไป มันก็จะ “สร้างใหม่” อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าหน้าตาจะไม่เหมือนเดิมเป๊ะๆ

ดังนั้น วิธีแก้คือ เราต้องเปลี่ยนจากการ “สั่งให้สร้างใหม่” มาเป็นการ “อ้างอิงถึงสิ่งที่เคยสร้างไว้แล้ว” ครับ

เทคนิคที่ 1: การใช้ character_id ร่วมกับ seed (สำหรับแพลตฟอร์มเดียวกัน)

ถ้าคุณทำงานบนแพลตฟอร์มเดิม (เช่น Veo) ที่มีระบบ “จำ” โปรเจกต์เก่าๆ ของเราได้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ seed เดิมที่เราเคยใช้สร้างตัวละครนั้นๆ

เทคนิคที่ 2 (ขั้นสูง): การ “ป้อนภาพต้นแบบ” (Image-to-Video Seeding)

นี่คือวิธีที่ทรงพลังและแม่นยำที่สุดครับ มันคือการเปลี่ยนจากการให้ AI จินตนาการตัวละครจาก “ข้อความ” มาเป็นการสร้างจาก “ภาพต้นแบบ” ที่เรากำหนดให้

ทำไมวิธีนี้ถึงดีที่สุด?: เพราะมันให้ “พิมพ์เขียว” ที่เป็นรูปธรรมกับ AI ไม่ใช่แค่คำอธิบายที่เป็นนามธรรม ไม่ว่าคุณจะสร้างวิดีโอกี่คลิปต่อจากนี้ เพียงแค่คุณอ้างอิงถึง reference_image_url เดิม AI ก็จะพยายามสร้างตัวละครให้มีใบหน้าและลักษณะใกล้เคียงกับภาพต้นแบบนั้นมากที่สุดเสมอ

มันเหมือนกับการที่เรา “แคสติ้ง” นักแสดงมาได้แล้วหนึ่งคน และหลังจากนั้นเราก็แค่เรียกใช้นักแสดงคนเดิมมาเข้าฉากเรากำลังจะทำ “ภาคต่อ” หรือ “Shot B” ของวิดีโอ The Oakwood Legacy กันครับ โจทย์ของเราคือ: ทำยังไงให้ AI รู้ว่า CraftsmanDad จากคลิปที่แล้ว คือคนเดียวกับคนที่จะมายกกาแฟดื่มในคลิปนี้

นี่คือเคล็ดลับและ “แบบแปลน” ที่เราจะยื่นให้ Veo ครับ

หลักการสำคัญในการสร้างความต่อเนื่อง

กุญแจสำคัญคือการบอก AI 2 อย่าง:

  1. ตัวละครตัวไหน: เราจะใช้ "id": "CraftsmanDad" เหมือนเดิม เพื่อบอกว่าเรากำลังพูดถึงนักแสดงคนเดิม
  2. เวอร์ชันไหน : เราจะใช้ "seed": 58201 (เลขเดิมจากโปรเจกต์ที่แล้ว) เพื่อบอก AI ว่า “ช่วยไปดู ‘พิมพ์เขียว’ ของตัวละคร CraftsmanDad ที่เราเคยสร้างไว้ในโปรเจกต์ Seed หมายเลข 58201 แล้วดึงลักษณะของเขามาใช้ในวิดีโอนี้หน่อย”

เมื่อเราให้ข้อมูลสองชิ้นนี้ AI ก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสร้างตัวละครให้มีใบหน้า, เสื้อผ้า , และลักษณะโดยรวมที่ใกล้เคียงกับวิดีโอตัวแรกมากที่สุด

JSON Prompt สำหรับวิดีโอ “ภาคต่อ”

นี่คือ “บทหนัง” ที่ผมเขียนขึ้นสำหรับฉากที่คุณอยากเห็นครับ: CraftsmanDad ยกกาแฟมาดื่มแล้วยกนิ้วโป้ง

(คุณสามารถคัดลอกทั้งหมดนี้ไปใช้ต่อได้เลย)

ผลลัพธ์ของ Video

https://anatobom.com/wp-content/uploads/2025/08/CraftsmanDad_s_Coffee_Test_Success.mp4

breakdown แบบฉบับเข้าใจง่าย

แค่นี้เราก็สามารถสร้างเรื่องราวที่ต่อเนื่องได้แล้ว เหมือนมีนักแสดงประจำกองถ่ายของเราเองเลย! การใช้ character_id ร่วมกับ seed และ reference_image (ในกรณีที่ซับซ้อนขึ้น) คือหัวใจของการสร้างซีรีส์วิดีโอด้วย AI เลยล่ะครับในหนังเรื่องต่อๆ ไปของเรานั่นเองครับ!

บทสรุป: คุณไม่ใช่แค่ผู้ใช้ AI แต่เป็น “ผู้สร้างสรรค์” ที่ใช้ AI

เพื่อนๆ ครับ…การมาถึงของเครื่องมืออย่าง Veo และเทคนิคอย่าง JSON Prompt ไม่ได้กำลังจะมา “แย่งงาน” คนทำวิดีโอ แต่มันกำลังจะ “มอบพลัง” ให้กับคนที่มีไอเดียแต่ขาดเครื่องมือ

มันกำลังทลายกำแพงทางเทคนิคและงบประมาณที่เคยขวางกั้นเราออกไป และเปิดโอกาสให้ “ผู้กำกับ” และ “นักเล่าเรื่อง” ที่อยู่ในตัวเราทุกคนได้ปลดปล่อยจินตนาการออกมาอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

JSON Prompt คือภาษาที่เราใช้ “สนทนา” กับ AI ในระดับที่ลึกซึ้ง มันคือการเปลี่ยนความสัมพันธ์จาก “เจ้านายกับลูกน้อง” มาเป็น “เพื่อนร่วมทีม” ที่เข้าใจกันอย่างแท้จริง และเมื่อมนุษย์กับเครื่องจักรสามารถร่วมทีมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ… ผลลัพธ์ที่ได้มันจะน่าทึ่งเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้เลยล่ะครับ

บทความเกี่ยวกับ เขียนบทความ SEO และ Video ด้วย AI

Exit mobile version