5 ความเหมือน ของการบริหารจัดการคน กับการเล่นเกม

งานบริหาร กับการเล่นเกม

5 ความเหมือน ของการบริหารจัดการคน กับการเล่นเกม

พูดถึงการเล่นเกมหลายคนถึงกับยี้ พอได้ยินคำนี้เพราะฉันไม่ใช่เด็ก ฉันไม่มีเวลามาเล่นเกมแล้ว มันเป็นสิ่งที่ผู้บริหารอย่างฉันไม่เล่นแล้ว คำเหล่านี้อาจจะก้องอยู่ในหัวผู้บริหารหลายๆท่าน

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า คำว่าเกม ไม่จำเป็นต้องเป็นของเด็กๆเสมอไป เกมในโลกปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นมามากแล้ว ทั้ง Board Game ที่ออกแบบมาใช้ในการบริหารจัดการ การวางแผน หรือบางครั้งใช้ในการสอนในห้องเรียน หรือเกมบนเครื่อง Console ต่างๆ เช่น Xbox, PlayStation หรือแม้กระทั่งเครื่อง PC และ Mac ก็ยังมีเกมที่ช่วยพัฒนาการวางแผนแบบ Real Time หรือเรียกว่า RTS (Real-time strategy) เกมเหล่านี้ถูกสร้างให้บริหารจัดการ Resource ที่มีจำกัด และวางคนงาน และ สิ่งก่อสร้างในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในเกมได้อีกด้วย

อีกเกมที่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการก็คือเกมจำพวก FPS (First-Person Shooter) เช่นเกม Overwatch 2 ที่ทั้งสองทีมเอาแต่ยิงๆกันไม่เห็นจะมีการบริหารจัดการอะไรเลย แต่ลองมองลึกๆลงไป การเล่นเกมจำพวกนี้จะมีคำว่า Team Dynamic อยู่ในตัวของมัน เพราะว่าแต่ละ Role ของ Hero จะทำหน้าที่ที่ต่างกัน โดยจะมี Tank, Damage, Support ผู้เล่นที่อยู่ Role นั้นๆจะต้องทำหน้าทีของ Role ตัวเองให้ดีที่สุด โดยบางครั้งผู้เล่นที่มีความเชียวชาญจะสลับตัวละครใน Role นั้นๆเป็นตัวอื่นๆ เพื่อใช้ความสามารถของตัวละครตัวอื่นมาทำให้เป็นข้อได้เปรียบในเกมการแข่งขันนั้นๆ ลองคิดเล่นๆ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้เล่น Role Support ที่ต้องคอยเพิ่มพลังให้กับผู้เล่นคนอื่น อยากที่จะเป็น Hero ของทีมไล่บุกเพื่อทำคะแนนให้ตัวเองมากที่สุดโดยไม่สนใจช่วยเหลือทีมเลย ทำให้ทีมไม่มีคนช่วย Support ก็พากันตายกันหมดเหลือแต่ผู้เล่นคนเดียวที่อยากจะโดดเล่น ท้ายที่สุดก็ตายเพราะฝั่งตรงข้ามมีจำนวนมากกว่า และแข็งแรงกว่า นี้คือผลเสียของการอยากเด่นคนเดียวไม่สนทีม

ดังนั้นการเล่นเกมไม่ใช่จะไม่มีข้อดีเลยซะทีเดียว จริงๆแล้วการเล่นเกม กับการบริหารจัดการคนในทีมของบริษัทมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกันอยู่มาก วันนี้ลองหยิบมา 5 อย่างมาเล่าให้ฟังกันเผื่อสามารถนำไปต่อยอดการบริหารจัดการทรัพยากรในมือของท่านได้ดียิ่งขึ้น

การวางแผนกลยุทธ์ และการตัดสินใจ(Strategy and decision-making)

การที่เราวางแผลกลยุทธ์ในการบริหารงานต่างๆตั้งแต่ต้นเป็นพื้นฐานสำคัญในการบริหารจัดการ แต่แผนงานของเราจะไม่สามารถที่จะสำเร็จได้เลย หากว่าเราไม่มีการตัดสินใจที่เฉียบแหลม ทันเหตุการณ์ และความเสี่ยงน้อยที่สุด หากทุกอย่างประกอบกันก็จะทำให้ทีมงานของเราทำงานได้ บรรลุเป้าหมายที่เราได้วางแผนเอาไว้ได้อยากไม่ยาก

วางแผนอย่างรอบครอบ และการลงมือทำ(Thoughtful planning and execution)

เมื่อเรามีแผนกลยุทธ์ที่มี Objective ที่แน่นอนแล้ว จากนั้นเราจะต้องมีการทำแผนการที่รอบครอบ ปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ทั้งความเสี่ยงคน ความเสี่ยงเรื่อง Budget และความเสี่ยงอื่นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นพร้อมแผนรองรับแบบคร่าวๆ เพื่อเราจะได้มาเป็นบรรทัดฐานในการทำงาน จากนั้นเราก็เริ่มลงมือทำตามแผนต่างๆที่ได้วางเอาไว้ และต้องกลับมา ตรวจสอบความผิดพลาด หรือผลที่ได้รับ และปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือเรียกว่า PDCA (Plan-do-check-act)

การปรับตัว และการคาดการณ์(Adaptability and anticipation)

เมื่อใดก็ตามเมื่อมีความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นอีกฝ่ายปรับกลยุทธ์ ลูกค้าปรับ Requirement พนักงานลาออก หรือมีเหตุอันไม่คาดคิดเกิดขึ้น การประเมินสถานการณ์ คาดการณ์ล่วงหน้า และการปรับตัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้บริหารต้องมี ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงเสมอๆ พร้อมแผนการณ์ล่วงหน้าไว้ซักหน่อย เผื่อคนในทีมจะได้ไม่ตกใจเกินไป

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective communication)

อย่าปล่อยให้ทีมคิดไปเอง คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้แบบนั้น แล้วทีมก็ทำตามที่เค้าคิดไว้ไปกันเอง จนท้ายที่สุดไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ดังนั้นการสือสารเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานกันเป็นทีม ไม่มีใครอ่านใจใครออกได้ อย่าให้เค้าคิดไปเอง อะไรดีก็ว่าดี อะไรไม่ดีก็รีบบอกอย่าปล่อยให้ล่วงเลยจนแก้ไม่ได้ พอมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเข้ามา ก็ต้องแจ้งให้ทีมรู้ คนในทีมจะได้เตรียมตัวทัน อย่าให้เค้ารู้เมื่อสาย ถึงแม้จะเป็นข่าวร้ายก็ต้องรู้ให้เร็วที่สุด และเราก็อย่าลืมเตรียมแผนการล่วงหน้าไว้ด้วยว่าจะจัดการความเสี่ยงนี้อย่างไร

เข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อน (Understanding strengths and weaknesses)

คำว่ารู้เข้ารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งก็ยังสามารถใช้ได้ในปัจจุบัน เราต้องรู้จุดแข็งจุดอ่อนของทีมเรา รู้จุดแข็งจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเพื่อเราจะได้นำมาปรับกลยุทธ์ของเราได้ถูกต้อง สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเราก็หาสิ่งมาเสริม เช่นหากลูกทีมของเราไม่รู้เรื่อง AI เราก็อาจจะหา Training ให้คนในทีม หรือให้เค้าลองศึกษาก่อนที่จะเริ่มทำโปรเจคต่างๆ สิ่งใดที่เป็นจุดแข็งของคนในทีม ก็อาจจะช่วยให้ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจบางส่วนให้ทีม เพื่อจะได้มีความเข้าใจมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าการเล่นเกม กับการบริหารคนมันมีสิ่งที่คล้ายกันอย่างมาก หวังว่าคุณจะสามารถนำความรู้บางอย่างในบทความนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้บ้าง อย่าลืมลองหาเกมมาเล่นกันดูนะครับ อาจจะมีแรงบัลดาลใจอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณสนุกกับการบริหารจัดการคนบ้างก็เป็นได้