เวลาเราพูดถึง “การสร้างคอนเทนต์ด้วย AI” เพื่อนๆ ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงอะไรกันครับ? ผมเดาว่าภาพในหัวของหลายคนคงเป็นการใช้ ChatGPT ช่วยเขียนบทความ, คิดแคปชั่นโซเชียลมีเดีย, หรือสรุปอีเมลยาวๆ ใช่ไหมครับ?
ซึ่งมันก็ไม่ผิดเลยนะ…แต่ถ้าผมจะบอกว่านั่นเป็นแค่การใช้ “สว่านไฟฟ้า” มาขันสกรูง่ายๆ เท่านั้นล่ะ? ทั้งที่จริงๆ แล้วสว่านตัวเดียวกันนี้มันสามารถใช้เจาะผนังคอนกรีตเพื่อแขวนชั้นวางของหนักๆ ได้เลย
ในฐานะคนที่เชื่อว่าเครื่องมือทุกชิ้นมีศักยภาพซ่อนอยู่เสมอ ผมเลยเกิดความสงสัยว่า ถ้าเราลองเลิกใช้ AI เป็นแค่ “ผู้ช่วยเขียน” แล้วลอง “ร่วมทีม” กับมันในฐานะ “ครีเอทีฟสตูดิโอ” เพื่อสร้างโปรเจกต์จริงๆ ขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง…ผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นอย่างไร?
วันนี้ผมเลยอยากจะมาชวนเพื่อนๆ มาดู Case Study สนุกๆ ที่ผมลองทำกับลูกชายกันครับ เราจะใช้เครื่องมือ Generative AI หลายๆ ตัวร่วมกันเพื่อสร้างโปรเจกต์งานไม้ชิ้นหนึ่ง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นแค่ไอเดียว่างเปล่า, การวางกลยุทธ์ SEO, ไปจนถึงการสร้างวิดีโอโปรโมตเท่ๆ ด้วยโค้ดกันเลยทีเดียว
โปรเจกต์ “หอคอยทอยเต๋าแห่งโชคชะตา”: เมื่อลูกชายอยากได้ของขวัญวันเกิดชิ้นเดียวในโลก
เรื่องมันเริ่มจากที่อีกไม่กี่เดือนจะถึงวันเกิดของเจ้าลูกชายตัวดีของผม ด้วยความที่เราเป็นคอบอร์ดเกมเหมือนกัน ปีนี้เขาเลยมาขอของขวัญที่เฉพาะเจาะจงมาก “พ่อครับ…หนูอยากได้ ‘หอคอยทอยเต๋า’ (Dice Tower) อันใหม่ อันเก่ามันพลาสติกก๊องแก๊งมาก อยากได้อันที่เป็นไม้ รูปทรงเท่ๆ แบบไม่มีใครเหมือนเลย”
แน่นอนว่า “พ่อสายเมกเกอร์” อย่างผม พอได้ยินคำว่า “สร้างของชิ้นเดียวในโลก” นี่ตาลุกวาวเลยครับ! ผมมีทักษะงานไม้พอตัว แต่ปัญหาคือ…แล้ว “ดีไซน์” ล่ะ? จะทำเป็นรูปทรงอะไรดีให้มันเท่สมกับที่ลูกชายคาดหวัง?
และนี่คือจุดที่ผมตัดสินใจว่า โปรเจกต์นี้แหละ…คือโอกาสอันดีที่เราจะลองให้ “ทีมงาน AI” เข้ามาช่วยเราตั้งแต่ต้นจนจบ
ขั้นตอนการทำงาน: ผมไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มี “ทีมงาน AI” ทั้งสตูดิโอ
ผมแบ่งโปรเจกต์นี้ออกเป็น 7 ขั้นตอนที่สมบูรณ์แบบ โดยในแต่ละขั้นตอน ผมจะเรียกใช้ “ผู้เชี่ยวชาญ AI” ที่แตกต่างกันไป เหมือนมีทีมงานครบทุกตำแหน่งเลยครับ
ขั้นตอนที่ 1: จ้าง “นักคิด” มาช่วยระดมสมอง (The Brainstormer – Gemini)
ผมกับลูกชายมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ด้วยกัน แล้วผมก็เปิด Gemini Advanced ขึ้นมา ผมชอบใช้ Gemini ในงานระดมสมอง เพราะมันเก่งเรื่องการเชื่อมโยงไอเดียที่หลากหลายและนำเสนอในมุมมองที่คาดไม่ถึง เราเริ่ม “บรีฟงาน” ให้กับนักคิดของเรา
Prompt ของผม: “เรากำลังจะสร้าง ‘หอคอยทอยเต๋า’ ที่ทำจากไม้สำหรับเด็กอายุ 10 ขวบ ช่วยเสนอไอเดียธีมแฟนตาซีที่น่าสนใจมา 5 แบบหน่อย โดยเน้นที่ความเท่และไม่เหมือนใคร”
ผลลัพธ์: Gemini เสนอไอเดียมาหลากหลายมาก แต่มีไอเดียหนึ่งที่ลูกชายผมตาเป็นประกายทันที…นั่นคือ “ต้นไม้โบราณที่บิดเบี้ยว (Twisted Ancient Tree)”
ขั้นตอนที่ 2: แปลงไอเดียเป็นภาพร่าง (The Concept Artist – Midjourney)
เมื่อได้คอนเซปต์ “ต้นไม้โบราณ” จาก Gemini แล้ว ผมก็ต้องเปลี่ยนมันให้กลายเป็นภาพที่มองเห็นได้ ผมจึงไปหา “นักวาดภาพประกอบ” ของเรา ซึ่งก็คือ Midjourney ผมเอาคอนเซปต์ที่ได้มาแปลงเป็น Prompt สำหรับสร้างภาพ
Prompt ของผม: product design, woodworking blueprint for a dice tower shaped like an ancient, gnarled oak tree, fantasy style, intricate details, hollow inside with a spiral staircase for dice, white background, schematic view --ar 9:16
ผลลัพธ์: เราได้ภาพคอนเซปต์อาร์ตของ “หอคอยต้นไม้” ที่สวยงามและเต็มไปด้วยรายละเอียดจนน่าทึ่ง และภาพนี้ก็ได้กลายเป็น “แบบแปลน” หลักทางสายตาสำหรับโปรเจกต์ของเรา
ขั้นตอนที่ 3: วางกลยุทธ์ SEO (The SEO Strategist – ChatGPT)
ก่อนที่จะลงมือสร้าง ผมใช้เวลาสักครู่ในฐานะนักการตลาดดิจิทัล ผมคิดว่า “ถ้าเราจะขายของชิ้นนี้จริงๆ คนเขาจะค้นหาคำว่าอะไร?” นี่คือขั้นตอนที่สำคัญมากที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้าม ผมจึงเรียกใช้ผู้เชี่ยวชาญอีกคน นั่นคือ ChatGPT ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการทำงานแบบมีโครงสร้างและให้ข้อมูลเชิงลึกด้าน SEO ได้ดีเยี่ยม
Prompt ของผม: "Act as an SEO specialist. I am planning to sell a handmade, fantasy-themed wooden dice tower called 'The Elderwood Spire.' Please provide me with a list of primary keywords, long-tail keywords, and potential blog post topics to attract board game enthusiasts, especially Dungeons & Dragons players."
ผลลัพธ์: ChatGPT ให้ลิสต์คีย์เวิร์ดมาอย่างยอดเยี่ยม เช่น “wooden dice tower”, “D&D accessories”, “custom dice roller”, “ของขวัญสำหรับคนเล่นบอร์ดเกม” และยังเสนอไอเดียหัวข้อบล็อกเช่น “5 วิธีอัปเกรดประสบการณ์การเล่น D&D ของคุณ” อีกด้วย ข้อมูลชุดนี้คือ “เข็มทิศ” ที่จะนำทางคอนเทนต์ทั้งหมดของเราครับ
ขั้นตอนที่ 4: สร้างแบบแปลน 3 มิติ (The Engineer – 3D Modeling Assist)
ขั้นตอนนี้ผมกลับมาที่บทบาทเมกเกอร์ครับ ผมเปิดโปรแกรมออกแบบ 3 มิติขึ้นมา แล้วใช้ภาพจาก Midjourney และแนวทางจาก ChatGPT เป็น “ภาพอ้างอิง” และ “เข็มทิศ” ในการขึ้นโมเดล 3 มิติ
ขั้นตอนที่ 5: เขียนคำอธิบายสินค้า (The SEO Copywriter – ChatGPT)
หลังจากที่ผมสร้างชิ้นงานต้นแบบเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียม “หน้าร้าน” ของเราบน Etsy ครับ ผมต้องการคำอธิบายสินค้าที่ไม่ได้แค่สวยงาม แต่ต้อง “ถูกใจอัลกอริทึม” ของ Etsy และ Google ด้วย ผมจึงกลับไปหา ChatGPT อีกครั้ง
Prompt ของผม: "Using the keywords you just gave me, now write an engaging and SEO-optimized product description for an Etsy listing for 'The Elderwood Spire.' The tone should be magical and appeal to Dungeons & Dragons players. Include sections for 'Description,' 'Features,' and 'Materials.'"
ผลลัพธ์: ผมได้คำอธิบายสินค้าที่ยอดเยี่ยม มีการสอดแทรกคีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ และใช้ภาษาที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที
ขั้นตอนที่ 6: เขียนบทโฆษณา (The Scriptwriter – Gemini)
เมื่อหน้าร้านพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาทำสื่อโปรโมต ผมกลับไปหาคู่หูคนเดิมอย่าง Gemini เพื่อช่วยคิดไอเดียที่สร้างสรรค์สำหรับวิดีโอ
Prompt ของผม: “ช่วยเขียนสคริปต์สำหรับวิดีโอโปรโมตสั้นๆ (30 วินาที) สำหรับสินค้า ‘The Elderwood Spire’ หน่อย โทนของวิดีโอขอเป็นแนวแฟนตาซี, ยิ่งใหญ่, และน่าตื่นเต้น แบ่งเป็น 3 ฉาก”
ผลลัพธ์: Gemini ร่างสคริปต์ออกมาให้ผมอย่างรวดเร็ว พร้อมคำบรรยายภาพและเสียงที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
ขั้นตอนที่ 7: สร้างวิดีโอโปรโมต (The Director & VFX Artist – Veo)
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ผมอยากจะโชว์ให้เพื่อนๆ ดูแบบเจาะลึกที่สุดครับ ผมจะเปลี่ยน “บทภาพยนตร์” ที่ได้จาก Gemini ให้กลายเป็น “วิดีโอ” จริงๆ ด้วย Veo และนี่ไม่ใช่แค่การพิมพ์ประโยคธรรมดาๆ แต่คือการยื่น “แบบแปลนทางวิศวกรรม” หรือ JSON Prompt ให้กับ AI ครับ
นี่คือ “บทหนัง” ฉบับสมบูรณ์ที่ผมเขียนขึ้นสำหรับวิดีโอโปรโมต “The Elderwood Spire”
นี่ไม่ใช่แค่การ “ขอ” ให้ AI สร้างวิดีโอ แต่นี่คือการ “กำกับ” ทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเคลื่อนกล้อง ("movement": "slow_tilt_up"), การตัดต่อ ("transition": "cross_dissolve"), ไปจนถึงการใส่ตัวหนังสือ (text_overlay) มันคือการควบคุมที่สมบูรณ์แบบครับ
บทสรุปจากโรงไม้: AI คือ “ผู้ช่วย” ที่ดีที่สุด หรือ “คู่แข่ง” ที่น่ากลัวที่สุด?
หลังจากจบโปรเจกต์นี้ ผมได้กลับมานั่งทบทวนบทบาทของ AI ทั้งหมด แล้วก็ได้คำตอบที่ชัดเจนมากครับ
AI ทำอะไรได้ดีเยี่ยมบ้าง?:
- เร่งกระบวนการคิดสร้างสรรค์: มันช่วยทลาย “กำแพงความคิด” (Writer’s block) ได้อย่างยอดเยี่ยม จากหน้าที่ว่างเปล่า เราได้ทั้งคอนเซปต์, ภาพร่าง, และบทภาพยนตร์ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
- ทำงานซ้ำซากที่น่าเบื่อ: การหาคีย์เวิร์ดหรือเขียนโครงร่าง เป็นสิ่งที่ AI ทำได้ดีและช่วยประหยัดเวลาเราได้มาก
- สร้างแรงบันดาลใจที่ไม่คาดคิด: ภาพจาก Midjourney หรือไอเดียจาก Gemini บางครั้งก็ให้มุมมองที่เรานึกไม่ถึง
แต่ AI “ทำอะไรไม่ได้” (และนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด):
- AI ไม่มี “เจตจำนง” เริ่มต้น: แรงผลักดัน, ความรัก, และ “เหตุผล” ที่จะสร้างโปรเจกต์นี้ขึ้นมา…มาจากผมและลูกชายล้วนๆ
- AI ไม่มี “ทักษะฝีมือ” ทางกายภาพ: มันสร้าง “แบบแปลน” ที่สวยงามได้ แต่มันไม่สามารถสัมผัสถึงความเรียบเนียนของผิวไม้ที่ขัดอย่างดี, ไม่รู้ถึงกลิ่นของน้ำมันรักษาเนื้อไม้, และไม่สามารถลงมือ “สร้าง” ของจริงขึ้นมาได้
- AI ไม่มี “ความรู้สึก” ร่วมกับผลลัพธ์: มันไม่สามารถรู้สึก “ภาคภูมิใจ” ในผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุด มันไม่สามารถเห็น “แววตาแห่งความสุข” ของลูกชายผมตอนที่เขาได้รับของขวัญชิ้นนี้ได้
บทสรุป: ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเรียนรู้วิธีใช้ “เครื่องมือ” ชิ้นใหม่
เพื่อนๆ ครับ… จาก Case Study นี้ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่า AI ไม่ใช่คู่แข่งที่จะมาแทนที่ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ครับ แต่มันคือ “เครื่องมือขยายขีดความสามารถ” (A Tool for Augmentation) ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา
มันคือทีมงาน, คือสตูดิโอส่วนตัว, คือผู้ช่วยที่ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย หน้าที่ของเราในฐานะ “เมกเกอร์” และ “นักการตลาด” ในยุคนี้ คือการเรียนรู้ที่จะเป็น “หัวหน้าโปรเจกต์” ที่ดี ที่รู้จักดึงเอาศักยภาพสูงสุดของทีมงาน AI ของเราออกมาใช้ให้เป็น
ดังนั้น อย่ากลัวที่จะลองใช้มันในโปรเจกต์ของคุณครับ เริ่มจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วคุณจะพบว่า “เพดาน” ของความคิดสร้างสรรค์ของคุณ…มันสูงขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาเยอะเลยล่ะครับ!