บทนำ: จุดอ่อนที่แท้จริงขององค์กรไม่ได้อยู่ภายใน?
องค์กรส่วนใหญ่มักทุ่มเททรัพยากรจำนวนมากเพื่อเสริมสร้างกำแพงป้องกันภายใน (Internal Defenses) แต่สถิติและการโจมตีครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษที่ผ่านมากลับชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ถูกมองข้ามมากที่สุด มักจะมาจากภายนอก นั่นคือ ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และคู่ค้าภายนอก (Vendors) ของบริษัทคุณเอง
สถิติที่น่าตกใจ: การโจมตีผ่านช่องทางคู่ค้า
การโจมตี Supply Chain หรือที่เรียกว่า Vendor Exploitation Attacks ได้กลายเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงข้อมูลองค์กร ตัวอย่างเช่น กรณี Target ในปี 2013 ที่แฮกเกอร์เข้าถึงระบบผ่านผู้ให้บริการระบบทำความเย็น (HVAC Vendor) หรือกรณี SolarWinds ในปี 2020 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการไว้วางใจในผู้ให้บริการรายเดียวสามารถสร้างความเสียหายในระดับโลกได้อย่างไร
คู่ค้าภายนอก: ประตูหลังที่เปิดทิ้งไว้
ทุกบริษัทที่ให้บริการแก่คุณ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์บัญชี, ระบบ Cloud, หรือแม้แต่ผู้ดูแลอาคาร ล้วนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงระบบหรือข้อมูลบางส่วนของคุณ ซึ่งกลายเป็นจุดเปราะบางที่ง่ายต่อการโจมตี
ความเสี่ยงหลักจากคู่ค้าที่คุณต้องรู้
- 1. การเข้าถึงระบบที่ไม่ได้รับการควบคุม (Uncontrolled Access): คู่ค้าหลายรายมักได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงเครือข่ายของบริษัทคุณผ่านทางพอร์ทัลหรือ VPN เพื่อการบำรุงรักษา หากรหัสผ่านของคู่ค้าเหล่านั้นไม่มี Multi-Factor Authentication (MFA) หรือรหัสอ่อนแอ นั่นหมายถึงผู้โจมตีสามารถใช้ช่องทางนั้นเข้าสู่เครือข่ายคุณได้โดยตรง
- 2. ความเสี่ยงจากผู้ขายที่ไม่ใช่ IT (Non-IT Vendors): ความเสี่ยงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ขายซอฟต์แวร์เท่านั้น ผู้ให้บริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดยตรง เช่น บริษัททำความสะอาด หรือซัพพลายเออร์รายย่อย ก็สามารถเป็นช่องทางให้ผู้โจมตีเข้ามาในระบบกายภาพหรือเครือข่ายได้
- 3. ความล้มเหลวที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง (Systemic Risk): การพึ่งพาผู้ให้บริการรายใหญ่รายเดียว (Single-vendor concentration) เช่น ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพอย่าง Change Healthcare ทำให้เมื่อผู้ขายรายนั้นถูกโจมตี ธุรกิจและบริการจำนวนมากที่พึ่งพาอยู่ก็ถูก อัมพาต ไปพร้อมกัน
ยุทธศาสตร์ป้องกัน: การจัดการความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์
แทนที่จะมองว่าความเสี่ยงจากคู่ค้าเป็นเพียงภาระทางธุรกรรม (Transactional), ผู้นำองค์กรและผู้บริหารความมั่นคงทางไซเบอร์ (CISOs) จะต้องจัดการความเสี่ยงนี้ในเชิงกลยุทธ์ (Strategic)
สิ่งที่ผู้บริหารต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
การป้องกันภัยคุกคามจากห่วงโซ่อุปทานต้องใช้แนวทางที่ครอบคลุมและเข้มงวด:
- ตรวจสอบ MFA ภาคบังคับ: ต้องตรวจสอบและบังคับให้คู่ค้าทุกรายที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายของคุณใช้ Multi-Factor Authentication อย่างเคร่งครัด นี่คือมาตรการพื้นฐานที่สำคัญที่สุด
- การแบ่งส่วนเครือข่าย (Network Segmentation): แยกเครือข่ายที่คู่ค้าใช้ในการทำงานออกจากเครือข่ายหลักที่มีข้อมูลสำคัญ เพื่อจำกัดขอบเขตความเสียหายหากมีการเจาะระบบเกิดขึ้น
- การตรวจสอบและประเมิน (Vendor Risk Assessment): กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจนในสัญญา และดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของคู่ค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขายังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ
บทสรุปและข้อเสนอแนะ: เปลี่ยนการจัดการความเสี่ยงเป็นข้อได้เปรียบ
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในยุคปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการโจมตีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถสแกนช่องโหว่ของคู่ค้าได้โดยอัตโนมัติ การมองข้ามความเสี่ยงจากภายนอกจึงไม่ใช่แค่ความประมาท แต่คือความเสี่ยงทางธุรกิจที่วัดมูลค่าไม่ได้ การเปลี่ยนวิธีการจัดการ Vendor Risk Management จากงานธุรการเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ จะไม่เพียงช่วยปกป้องบริษัทของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจในภาพรวมด้วย
บริษัทของคุณมีแผนการประเมินความเสี่ยงด้านไซเบอร์ของคู่ค้าที่ชัดเจนแล้วหรือยัง?
อ้างอิงจาก : https://www.crainscleveland.com/crains-content-studio/vendor-cybersecurity-risk-you-cant-ignore