ภัยคุกคามไซเบอร์ปี 2025 ทวีความรุนแรง: คำเตือนจาก NCSC
ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NCSC) ได้ออกคำเตือนล่าสุดในปี 2025 ว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความสำคัญระดับสูงและระดับชาติได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญและหน่วยงานรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
รายงานจาก Slaughter and May ผ่าน Passle ระบุว่า แม้จะมีคำเตือนเดิมๆ และภัยคุกคามลักษณะเดิม แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีนี้มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงระดับประเทศ
สาเหตุที่การโจมตีไซเบอร์เพิ่มขึ้นในปี 2025
การโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2025 มีหลายปัจจัยที่ส่งผล ได้แก่:
- การใช้เทคโนโลยี AI และอัตโนมัติของแฮกเกอร์: ทำให้สามารถโจมตีได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ทำให้เกิดการโจมตีข้ามชาติในลักษณะสงครามไซเบอร์
- ช่องโหว่ในระบบคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล: ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขหรืออัปเดตอย่างเพียงพอ
จากแนวโน้มดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างต้องเผชิญกับแรงกดดันในการยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลอย่างเร่งด่วน
ผลกระทบที่ขยายวงกว้างกว่าที่เคย
รายงานของ NCSC ระบุว่า การโจมตีในปี 2025 ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางการเงิน แต่ยังส่งผลต่อบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น พลังงาน การขนส่ง และสาธารณสุข ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายในระดับประเทศ
ตัวอย่างเช่น การโจมตีระบบเครือข่ายของหน่วยงานภาครัฐในบางประเทศทำให้บริการดิจิทัลหยุดชะงัก และข้อมูลประชาชนรั่วไหลเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่ในระบบที่สำคัญ
สิ่งที่องค์กรควรทำเพื่อตอบรับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น
- เพิ่มการตรวจสอบและป้องกันเชิงรุก: ใช้เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติในการตรวจจับภัยคุกคามล่วงหน้า
- สร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์: ให้พนักงานทุกระดับเข้าใจและตระหนักถึงความเสี่ยงทางดิจิทัล
- ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ: เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางป้องกันการโจมตีข้ามพรมแดน
การเตรียมพร้อมและการลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงไม่ใช่เพียงเรื่องเทคนิค แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการปกป้ององค์กรและประเทศจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สรุป: เมื่อภัยไซเบอร์ไม่ใช่แค่ความเสี่ยง แต่คือภัยคุกคามระดับชาติ
รายงานของ NCSC เป็นการย้ำเตือนว่า แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ช่องโหว่และความเสี่ยงก็เติบโตไปพร้อมกัน การรับมืออย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในการสร้างระบบความมั่นคงไซเบอร์ที่ยั่งยืน
สำหรับผู้นำองค์กร ปี 2025 คือปีที่ต้องเปลี่ยนจากการตอบสนอง (Reactive) มาเป็นการป้องกันเชิงรุก (Proactive) อย่างแท้จริง
อ้างอิงจาก : https://thelens.slaughterandmay.com/post/102lqni/same-warnings-same-threats-bigger-consequences-increase-in-highly-and-national