ตลาด AI ร้อนแรงเกินจริง: ความตึงตัวของมูลค่าที่สั่นคลอนเสถียรภาพโลก
ราคาหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วโลกยังคงพุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง แต่สถาบันการเงินระดับโลกได้ออกโรงเตือนว่า ตลาดอาจกำลังเข้าสู่ภาวะ ฟองสบู่ (Bubble) ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแตก ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England – BoE) และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ออกมาส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจน
ทำไม BoE และ IMF จึงส่งสัญญาณวิกฤต? 3 ปัจจัยหลักที่น่ากังวล
การเปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันกับวิกฤตฟองสบู่ดอทคอมในปี 2000 เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาอย่างต่อเนื่อง ผู้กำหนดนโยบายมองเห็นสัญญาณอันตรายหลายประการ:
- มูลค่าตลาดที่ตึงตัว (Stretched Valuations): BoE เตือนว่ามูลค่าหุ้นในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่เน้น AI นั้น “ตึงตัวเป็นพิเศษ” และมูลค่าหุ้นในดัชนีหลักบางตัวอยู่ในระดับที่ “เทียบเท่ากับช่วงสูงสุด” ของฟองสบู่ดอทคอม
- ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของตลาด: ปัจจุบัน หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท มีสัดส่วนมูลค่าตลาดในดัชนี S&P 500 สูงกว่า 25 ปีที่ผ่านมา หากความคาดหวังเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ลดลงเพียงเล็กน้อย ตลาดโดยรวมจะมีความ เปราะบาง ต่อการปรับฐานอย่างรุนแรง
- ความไม่แน่นอนของผลตอบแทน (ROI Uncertainty): แม้จะมีการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน (เช่น ชิปและ Data Center) แต่ IMF ชี้ว่าการคาดการณ์ด้าน ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น จาก AI นั้นยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวัง “เงื่อนไขทางการเงินทั่วโลกอาจพลิกผันอย่างกะทันหัน”
บทเรียนสำคัญ: AI คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การปั่นกระแส
ถึงแม้ว่าจะมีคำเตือนเรื่องฟองสบู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่ง รวมถึง Jeff Bezos ก็มองว่า AI คือ “ฟองสบู่ที่ดี” (a good bubble) เพราะแม้ว่าราคาหุ้นจะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ แต่การลงทุนที่ลงไปในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานในยุคนี้ จะยังคงอยู่และเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนวัตกรรมในระยะยาว
สิ่งที่นักลงทุนควรปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง
สำหรับนักลงทุนแล้ว นี่คือสิ่งที่ควรพิจารณาในสถานการณ์ที่ตลาดมีความผันผวนสูง:
- ตรวจสอบปัจจัยพื้นฐาน: ให้ความสำคัญกับบริษัท AI ที่มี กระแสเงินสดและกำไรที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสความคาดหวังเท่านั้น
- การกระจายความเสี่ยง (Diversification): ไม่ควรทุ่มเงินทั้งหมดไปที่กลุ่มหุ้น AI เพียงอย่างเดียว และควรมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านลบ (downside protection)
- เตรียมพร้อมรับการปรับฐาน: ควรยอมรับความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเกิด การปรับฐานฉับพลัน (sharp correction) โดยมีเงินสดสำรองพร้อมสำหรับเข้าลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีเมื่อราคาปรับลดลง
ในที่สุดแล้ว นักลงทุนต้องแยกให้ออกระหว่าง “การปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่แท้จริง” กับ “ความคลั่งไคล้เก็งกำไรในระยะสั้น” เพื่อให้สามารถคว้าโอกาสจาก AI ได้อย่างยั่งยืน
อ้างอิงจาก : https://m.economictimes.com/markets/stocks/news/is-the-becoming-a-bubble-why-goldman-jpmorgan-imf-are-sounding-the-alarm/articleshow/124443190.cms